ภูเขาไฟ (Volcano)
ภูเขาไฟ
(Volcano)
ภูเขาเกิดจากการเปลี่ยนแปลงลักษณะของเปลือกโลก ซึ่งแผ่นธรณีทวีปดันกันทำให้ชั้นหินคดโค้ง (Fold) เป็นรูปประทุนคว่ำและประทุนหงายสลับกัน ภูเขาที่มียอดแบนราบอาจเกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกตามบริเวณรอยเลื่อน (Fault) แต่ภูเขาไฟ (Volcano) มีกำเนิดแตกต่างจากภูเขาทั่วไป ภูเขาไฟเกิดจากการยกตัวของแมกมาใต้เปลือกโลก
ประเภทของภูเขาไฟ
ภูเขาไฟมีรูปร่างสัณฐานต่างกัน
เนื่องจากเกิดขึ้นจากแมกมาซึ่งมีแหล่งกำเนิดแตกต่างกัน
และมีองค์ประกอบของแร่แตกต่างกัน เราจำแนกชนิดของภูเขาไฟตามลักษณะทางกายภาพได้ 3 ประเภทดังนี้
1.ภูเขาไฟรูปโล่
(Shield
volcano): เกิดขึ้นจากแมกมาบะซอลต์ที่มีความหนืดสูง
ไหลออกมาฟอร์มตัวเป็นที่ราบสูงลาวาเช่น ภูเขาไฟมอนาคีบนเกาะฮาวาย
ที่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก
2.กรวยกรวดภูเขาไฟ (Cinder cone): เป็นภูเขาไฟขนาดเล็กมาก
สูงประมาณ 100 - 400 เมตร ความลาดชันปานกลาง
เกิดจากการสะสมตัวของแก๊สร้อนในแมกมาที่ยกตัวขึ้นมา เมื่อมีความดันสูงเพียงพอ จะระเบิดทำลายพื้นผิวโลกด้านบนเกิดเป็นปล่องภูเขาไฟเช่น กรวยภูเขาไฟในรัฐโอรีกอน
ประเทศสหรัฐอเมริกา
3.ภูเขาไฟกรวยสลับชั้น (Composite cone volcano ,Stratovolcano): เป็นภูเขาไฟขนาดปานกลาง ที่มีรูปทรงสวยงามเป็นรูปกรวยคว่ำ สูงประมาณ 100
เมตร ถึง 3,500 เมตร เรียงตัวอยู่บริเวณเขตมุดตัว (Subduction
Zone) เกิดขึ้นจากแผ่นธรณีมหาสมุทรที่หลอมละลายเป็นแมกมา
แล้วยกตัวขึ้นดันเปลือกโลกขึ้นมาเป็นแนวภูเขาไฟรูปโค้ง (Volcanic arc)ตัวอย่างเช่น ภูเขาไฟเซนต์เฮเลน รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
4.ภูเขาไฟแบบกรวยสูง
(Steep
cone) เกิดจากลาวาที่มีความเป็นกรด หรือ Acid lava cone รูปกรวยคว่ำของภูเขาไฟเกิดจากการทับถมของลาวาที่เป็นกรด
เพราะประกอบด้วยธาตุซิลิกอนมากกว่าธาตุอื่นๆ ลาวามีความเข้มข้นและเหนียว
จึงไหลและเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ แต่จะแข็งตัวเร็ว ทำให้ไหล่เขาชันมาก
ภูเขาไฟแบบนี้จะเกิดจากการระเบิดอย่างรุนแรง
ปรากฏการณ์ภูเขาไฟภายนอก (Extrusive Activities)
เกิดจากหินหลอมละลายภายใต้ความกดดันมหาศาลแทรกตัวมาตามรอยร้าวของเปลือกโลกและหินหนืดเหล่านั้นมีก๊าซเข้าไปผสมมากขึ้น
โดยส่วนใหญ่จะเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และไฮโดรเจน เป็นส่วนมาก
ทำให้เกิดแรงผลักดันมหาศาลเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง
หรือผลักดันให้หินหนืดไหลออกมาตามรอยร้าวของเปลือกโลก
ปรากฏการณ์การระเบิดของภูเขาไฟจึงเกี่ยวกับสภาวะของเปลือกโลกที่ยังไม่มั่นคง
ปัจจุบันคาดกันว่าทั่วโลกยังคงมีภูเขาไฟคุกรุ่นมีพลังอยู่ประมาณ 850 ลูก
แต่เป็นการยากที่จะแยกแยะระดับความรุนแรง ทั้งนี้เพราะอาจทวีความรุนแรงขึ้นอีกได้เหมือนกัน
ภูเขาไฟที่เพิ่งเกิดเมื่อประมาณ 1-2 ล้านปีมาแล้ว มักเกิดโอกาสปะทุได้อีก
ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดแผ่นดินไหว อย่างไรก็ตามเราสามารถ
จำแนกประเภทของภูเขาไฟจากปรากฏการณ์
ได้เป็น 3 ประเภท คือ
1.ภูเขาไฟมีพลัง
(Active
Volcanoes) หมายถึง ภูเขาไฟที่เคยมีประวัติถูก
บันทึกว่ามีการระเบิดเกิดขึ้น จัดว่าเป็นภูเขาไฟยังมีพลังอยู่ เช่น ภูเขาไฟเอตนา
ในเกาะซิซิลี ของประเทศอิตาลี
2.เขาไฟที่สงบ
(Dormant
Volcanoes) หมายถึง ภูเขาไฟที่ไม่เคยถูกบันทึกว่ามีการระเบิดเกิดขึ้น
และไม่มีการผุพัง จัดว่าเป็นภูเขาไฟที่สงบมันอาจเกิดการระเบิดเมื่อใดก็ได้ เช่น
ภูเขาไฟ วิสุเวียส ในประเทศอิตาลี
3.ภูเขาไฟที่ดับแล้ว
(Extinct
Volcanoes) หมายถึง
ภูเขาไฟที่ไม่เคยถูกบันทึกว่ามีการระเบิดเกิดขึ้น เช่น ไม่มีไอน้ำร้อนขึ้นมา
หรือไม่มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในท้องถิ่นนั้น ๆ
ภูเขาไฟประเภทนี้จัดเป็นประเภทภูเขาไฟที่ดับแล้ว เช่น ภูเขาไฟหลวง จังหวัดสุโขทัย
อ้างอิง : ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์.//(2560).//ภูเขาไฟ//สืบค้นเมื่อ ๒๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๒./จาก/ http://www.lesa.biz/earth/lithosphere/geological-phenomenon/earthquake
อ้างอิง : ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์.//(2560).//ภูเขาไฟ//สืบค้นเมื่อ ๒๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๒./จาก/ http://www.lesa.biz/earth/lithosphere/geological-phenomenon/earthquake
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น