แผ่นดินไหว (Earthquake)
แผ่นดินไหว (Earthquake)
แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ผลจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
ทำให้หินเปลี่ยนลักษณะ เลื่อนตัว แตกหัก ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์
โดยสามารถอธิบายได้ว่า
เปลือกโลกเกิดความเครียดมากจนกระทั้งรับความเครียดต่อไปไม่ไหวจึงทำให้เกิดการปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของคลื่นไหวสะเทือน
(seismic
wave)
ซึ่งจะแผ่กระจายจากจุดกำเนิดไปทุกทิศทางโดยตำแหน่งที่เป็นจุดกำเนิดการไหวสะเทือนเรียกว่า
ศูนย์เกิดแผ่นดินไหว (focus) ส่วนศูนย์เกิดแผ่นดินไหวจะอยู่ใต้ผิวโลกที่ระดับความลึกต่างๆ
ตำแหน่งบนผิวโลกที่อยุ่เหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว เรียกว่า จุดเหนือศูนย์แผ่นดินไหว
(epicenter)
แผ่นดินไหวจะเกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี
ซึ่งเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ และอาจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น
เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในขณะที่แมกมาใต้ผิวโ,กเคลื่อนตัวตามเส้นทางปล่องภูเขาไฟ
ซึ่งสามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวก่อนที่จะระเบิดออกมาเป็นลาวาได้
หรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์ อาทิ การทดลองระเบิดปรมาณูใต้ดิน
อ้างอิง : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรงศึกษาธิการ.//(2553).//หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ.//พิมพ์ครั้งที่ 3.//กรุงเทพมหานคร:/โรงพิมพ์ สกสต. ลาดพร้าว
อ้างอิง : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรงศึกษาธิการ.//(2553).//หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ.//พิมพ์ครั้งที่ 3.//กรุงเทพมหานคร:/โรงพิมพ์ สกสต. ลาดพร้าว
ลักษณะของการเกิดแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวมักเกิดขึ้นในบริเวณรอยต่อของแผ่นธรณี เนื่องจากเป็นบริเวณที่เกิดกระบวนการธรณีแปรสัณฐาน 3 ลักษณะ
1.แผ่นธรณีเคลื่อนที่ออกจากกัน
(Divergent
boundaries) แมกมาจากชั้นฐานธรณีภาคดันให้แผ่นธรณีโก่งตัวอย่างช้าๆ
จนแตกเป็นหุบเขาทรุด (Rift valley) หรือสันเขาใต้สมุทร
(Oceanic Ridge) ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดเบาที่ระดับตื้น
(ลึกจากพื้นผิวน้อยกว่า 70 กิโลเมตร)
เช่นบริเวณกลางมหาสมุทรแอตแลนติก
2.แผ่นธรณีเคลื่อนที่เข้าหากัน
(Convergent
boundaries) การชนกันของแผ่นธรณีสองแผ่นในแนวมุดตัว
(Subduction zone) ทำให้แผ่นที่มีความหนาแน่นมากกว่าจมตัวลงตัวสู่ชั้นฐานธรณีภาค
การปะทะกันเช่นนี้ทำให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่ระดับลึก (300 – 700 กิโลเมตร)
และหากเกิดขึ้นในมหาสมุทรก็จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิ เช่น
สันเขาใต้สมุทรใกล้เกาะสุมาตรา และ
เกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น
3.แผ่นธรณีเคลื่อนที่ผ่านกัน
(Transform
fault) ทำให้เกิดแรงเสียดทานของหินเปลือกโลก
แม้ว่าแผ่นธรณีจะเคลื่อนที่ผ่านกันด้วยความเร็วเพียงปีละประมาณ 3 - 6 เซนติเมตร แต่เมื่อเวลาผ่านไป 100 ปี
ก็จะเคลื่อนที่ได้ระยะทาง 3 - 6 เมตร
ซึ่งถ้าหากหินคืนตัวก็จะสามารถปลดปล่อยพลังงานมหาศาลได้ ดังเช่น
รอยเลื่อนซานแอนเดรียส์ก็เคยทำลายเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
จนประสบความเสียหายหนักเมื่อปี พ.ศ.2449
อ้างอิง
:
ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและดาราศาสตร์.//(2560).//แผ่นดินไหว//สืบค้นเมื่อ ๒๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๒./จาก/ http://www.lesa.biz/earth/lithosphere/geological-phenomenon/earthquake
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น